"๙๒ ปีชาตกาล หลวงพ่อสมเด็จฯ"
ทำกับฉัน เหมือนว่าฉันนั้นยังอยู่
วันนี้ วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑
เป็นวันคล้ายวันเกิดของ "พ่อ"
"พ่อ" ที่ชื่อว่า "สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (ประจวบ กนฺตาจารมหาเถร)
"พ่อ" ได้ถือกำเนิดเพื่อสร้าง เพื่อให้ และเพื่อเสียสละ เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๔๖๙ ตรงกับวันขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีขาล ณ หมู่บ้านโรงจีน อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ในสกุล "เนียมหอม"
หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่อายุ ๑๐ ขวบ
"พ่อ" ได้บรรพชาเป็นสามเณร ขณะมีอายุได้ ๑๒ ปี เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๔๘๐ ณ วัดเหนือบางแพ ซึ่งเป็นวัดประจำบ้านเกิด
ครั้นอายุได้ ๑๔ ปี ในเดือนพฤษภาคม ๒๔๘๓ พระครูวิบูลธรรมคุต (พ.ท.วิบูล สิริสุภาส) จำพรรษา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ได้พา "พ่อ" ไปฝากตัวกับพระเทพเวที (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
ซึ่งต่อมา ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ครั้นอายุได้ ๒๑ ปี "พ่อ" ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๔๘๙ โดยมีพระธรรมปาโมกข์ (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์
ได้นามฉายาว่า "กนฺตาจาโร"
"พ่อ" เป็นนักการศึกษา นักพัฒนา ที่มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล และได้บำเพ็ญคุณูปการอย่างมหาศาลแก่พระพุทธศาสนา
"พ่อ" สำเร็จการศึกษานักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม ๕ ประโยค ศน.บ. จากสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ปริญญาโทและเอก (ปรัชญา) จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย
"พ่อ"ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี ๒๕๒๖
"พ่อ" ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักด์ในชั้นต่างๆ ตามปีพุทธศักราชดังนี้ คือ
พระกิตติสารมุนี (๒๕๐๕)
พระราชกวี (๒๕๑๕)
พระเทพโมลี (๒๕๑๗)
พระธรรมธัชมุนี (๒๕๒๘)
พระธรรมปัญญาจารย์ (๒๕๓๖) และ
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (๒๕๔๓)
"พ่อ" ได้รับภารธุระด้านการปกครองของคณะสงฆ์เป็นจำนวนมาก อาทิ เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กก.มหาเถรสมาคม อธิการบดี มมร. ผอ. และ ผู้จัดการ ม.ว.ก. กก.มูลนิธิ ม.ว.ก. กก. มูลนิธิสิรินธร และ รก. เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต
"พ่อ" ได้ก่อตั้งวัดญาณรังษี สหรัฐอเมริกา วัดมกุฏคีรีวัน
และ
ที่สำคัญคือ
"พ่อ" เป็นผู้ร่วมสืบพระปณิธานในหลวงปู่สมเด็จฯ
คือ การก่อตั้ง "มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย" และ "วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง"
"พ่อ" ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลูกๆ มีการศึกษา อยู่ดี กินดี เป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีมีคุณภาพ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ ซึ่งเป็นปีแรกที่เปิดการศึกษา จวบจนวาระสุดท้าย
"พ่อ" ทำให้ลูกๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่เคยบ่น ไม่เคยเรียกร้องบุญคุณ
"พ่อ" ตื่นแต่เช้า เพื่อทำงานต่างๆ ที่ มมร. ม.ว.ก. และวัดมกุฏคีรีวัน ตลอดทั้งวัน
"พ่อ" กลับถึงวัดดึกดื่น พร้อมผักผลไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง ที่พ่อได้มา เพื่อเตรียมให้ลูกๆ ได้ฉันที่วังน้อย
แม้หลายครั้ง
"พ่อ" ต้องฉันมาม่า เพราะไม่มีอะไรจะฉัน เพราะนำไปให้ลูกๆ จนหมด
"พ่อ" ทำงานหนักมาก "พ่อ" ไม่สบายด้วยโรคไตวายเรื้อรัง ปอดอักเสบ หลอดเลือดหัวใจตีบ และเบาหวาน
แต่ "พ่อ" ไม่เคยหยุดทำเพื่อลูกๆ และพระศาสนา
"พ่อ" ต้องพกยาติดตัวตลอดเวลา และทันทีหลังฟอกไต "พ่อ" รีบบึ่งไปวังน้อย ไปบ้านของพ่อ ที่มีลูกๆ อยู่
น้อยคนนัก ที่จะรู้ว่า "พ่อ" เหนื่อย เจ็บปวด ทรมาน เพราะพ่อยิ้มแย้ม ทักทายลูกๆ ไม่เคยบ่น หรือแสดงอาการท้อแท้ให้เห็น
จนวาระสุดท้าย
"พ่อ" ได้ละสังขาร ลาจากลูกๆ เนื่องจากปอดติดเชื้ออย่างรุนแรงและลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด
"พ่อ" สละร่างกายที่ใช้เพื่อบำเพ็ญประโชน์แก่พระศาสนา พุทธศาสนิกชน และลูกๆ ที่ "พ่อ" รักมากที่สุด
เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๑ ณ ตึกอัษฎางค์ รพ.ศิริราช
สิริอายุ ๘๑ ปี ๖ เดือน ๖๑ พรรษา
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ สรงน้ำหลวงพระราชทานในวันรุ่งขึ้น และ ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
"พ่อ" จากไปแล้ว
แต่ จากเพียงกาย
เพราะ "พ่อ" ยังอยู่ในหัวใจของลูกๆ เสมอ และตลอดไป
"พ่อ" เป็น "อมตะ"
ลูกๆ ขอกราบแทบเท้าของ "พ่อ" ด้วยรำลึกในพระคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ "พ่อ" ได้ทำเพื่อลูกๆ
ลูกๆ คือต้นไม้ของ "พ่อ" ที่ได้ปลูก ดูแลรักษาอย่างดี
บัดนี้ ต้นไม้ของพ่อ ออกดอก ออกผล ให้พ่อได้ชื่นชม
รัก เทิดทูน และเคารพ "พ่อ" สุดหัวใจครับ
วิ.ขะ.สะ.กะ.
สมาคมศิษย์เก่ามหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย
๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑
(ขอบคุณ อ.มีเดช เฮ็งเพ็ง สำหรับกราฟิก และพี่น้องทุกท่านสำหรับรูปภาพ)